อุทยานแห่งชาติภูกระดึงตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมีธรรมชาติที่โดดเด่นสวยงามงาม และความหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด
เฉพาะแหล่งท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึงมีการปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายนของทุกปี และเปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 พฤษภาคมของทุกปี[1]
เส้นทางขึ้นสู่ยอดภูกระดึง edit
เส้นทางขึ้นที่อำเภอภูกระดึง edit
เป็นเส้นทางเก่าแก่และได้รับความนิยมมากที่สุดนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาในเส้นทางนี้ได้ที่อำเภอภูกระดึง ณ ที่ทำการอุทยาน มีระยะทางประมาณ 5.5 กม.จากที่ทำการถึงหลังแป ในเส้นทางขึ้นจะมีบริเวณที่พักหลายช่วง เมื่อไล่ตามระดับความสูงจากที่ทำการถึงหลังแปได้ดังนี้[2]
- ปางกกค่า คำว่า "ปาง" มาจากคำว่า " ป๋าง " ในภาษาท้องถิ่นหมายถึงสถานที่พักแรม ระยะทางที่ต้องเดินจากที่ทำการไปยังปางกกค่ายาวประมาณ 800 เมตร
- ซำแฮก คำว่า "ซำ" ซึ่งหมายถึงบริเวณที่มีพื้นที่ที่มีน้ำซับหรือน้ำใต้ดินผุดขึ้นสู่ผิวดิน มักเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่ามาพักกินน้ำ ส่วนคำว่า "แฮก" นักท่องเที่ยวทั่วไปมักล้อเลียนว่ามีความหมายถึงอาการหอบซึ่งคนเรามักจะออกเสียง "แฮกๆ" แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า "แฮก" นี้หมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภาษาท้องถิ่นคือมีผีตาแฮกหรือผีเจ้าป่าเจ้าเขาคุ้มครองอยู่ บริเวณนี้มีร้านค้าคอยบริการ เป็นเส้นทางที่มีความชันมาก ระยะทางที่ต้องเดินจากปางกกค่าไปยังซำแฮกยาวประมาณ 200 เมตร
- ซำบอน หมายถึงบริเวณที่ต้นบอนขึ้นอยู่มาก ระยะทางที่ต้องเดินจากซำแฮกไปยังซำบอนยาวประมาณ 700 เมตร
- ซำกกกอก หมายถึงบริเวณที่ต้นมะกอกขึ้นอยู่มาก บริเวณนี้มีร้านค้าคอยบริการ ระยะทางที่ต้องเดินจากซำบอนไปยังซำกกกอกยาวประมาณ 360 เมตร
- ซำกอซาง หมายถึงบริเวณที่ไผ่ซางขึ้นอยู่มาก ระยะทางที่ต้องเดินจากซำกกกอกไปยังซำกอซางยาวประมาณ 200 เมตร
- พร่านพรานแป เป็นจุดที่พรานป่าในอดีตจะตั้งศาลเพียงตาทำพิธีไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาขอเข้าไปล่าสัตว์หาของป่าและให้กลับมาอย่างปลอดภัย บริเวณนี้มีร้านค้าคอยบริการ ระยะทางที่ต้องเดินจากซำกอซางไปยังพร่านพรานแปยาวประมาณ 240 เมตร
- ซำกกหว้า หมายถึงบริเวณที่ต้นหว้าขึ้นอยู่มาก ระยะทางที่ต้องเดินจากพร่านพรานแปไปยังซำกกหว้ายาวประมาณ 440 เมตร
- ซำกกไผ่ หมายถึงบริเวณที่ต้นไผ่ขึ้นอยู่มาก ระยะทางที่ต้องเดินจากซำกกหว้าไปยังซำกกไผ่ยาวประมาณ 460 เมตร
- ซำกกโดน หมายถึงบริเวณที่ต้นกระโดนซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นทางอีสานขึ้นอยู่ บริเวณนี้มีร้านค้าคอยบริการ ระยะทางที่ต้องเดินจากซำกกไผ่ไปยังซำกกโดนยาวประมาณ 300 เมตร
- ซำแคร่ ระยะทางที่ต้องเดินจากซำกกโดนไปยังซำแคร่ยาวประมาณ 480 เมตร
หลังจากถึงซำแคร่ซึ่งเป็นซำสุดท้ายนักท่องเที่ยวก็ต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 1,300 เมตร เพื่อเข้าสู่ยอดเขาในส่วนที่เรียกกันว่าหลังแป เป็นเส้นทางที่มีความชันมากที่สุด หลังจากขึ้นถึงหลังแปนักท่องเที่ยวต้องเดินทางราบอีกประมาณ 3.6 กม. เพื่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนยอดเขาซึ่งเป็นที่พัก ทิวทัศน์สองข้างทางจะเป็นป่าสนเขาสลับทุ่งหญ้า
เส้นทางขึ้นที่อำเภอน้ำหนาว edit
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึงได้ที่บ้านฟองใต้อำเภอน้ำหนาว ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาเส้นทางใหม่ โดยจะขึ้นไปที่ผาหล่มสักโดยตรง มีระยะมีระยะทาง 4 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.5 (หนองผักบุ้ง) ถึงยอดเขาและเดินอีก 1.2 กม.ก็จะถึงผาหล่มสัก[3]
กระเช้าไฟฟ้า edit
โครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงซึ่งได้เงียบหายไปหลายปีเนื่องจากการคัดค้านจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะนักอนุรักษ์ ปัจจุบันได้รับการผลักดันโครงการอีกครั้งทั้งที่ผลสำรวจนักท่องเที่ยวเกือบ 70% นั้นไม่เห็นด้วย คาดว่าแนวเส้นทางการก่อสร้างกระเช้คือจุดเริ่มต้นจากบริเวณที่ทำการอุทยาน ต.ศรีฐาน ถึงบริเวณหลังแป[4][5]
การท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึง edit
เส้นทางท่องเที่ยวบนยอดเขาภูกระดึงแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือบริเวณท่องเที่ยวปกติ และบริเวณป่าปิด โดยบริเวณแหล่งท่องเที่ยวปกติก็จะแบ่งได้เป็นสองเส้นทางคือ เส้นทางน้ำตก และ เส้นทางเลียบผา ส่วนบริเวณป่าปิดก็จะแบ่งได้เป็น เส้นทางน้ำตกขุนพอง และ เส้นทางผาส่องโลก
เส้นทางน้ำตก edit
thumb|ก่วมแดงพืชสกุลเมเปิลที่พบบริเวณน้ำตก บนภูกระดึง เส้นทางเดินชมธรรมชาตินี้จะเดินไปพบน้ำตกเป็นหลัก แม้ว่าน้ำตกแต่ละแห่งบนภูกระดึงเป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่ก็มีเสน่ห์อยู่ที่ความร่มรื่นของเส้นทางและความเขียวขจีของมอสที่เกาะบนก้อนหินในบริเวณลำธาร และต้นไม้ที่โดดเด่นที่สุดของภูกระดึงคือก่วมแดงพืชในสกุลเมเปิลซึ่งพบมากในบริเวณน้ำตกและลำธาร จะผลัดใบในช่วงกลางฤดูหนาวใบก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งต้นแล้วก็ร่วงหล่นไปแดงอยู่ตามพื้นลำธารตัดกับสีเขียวของมอสบนก้อนหินริมลำธารสวยงามมาก
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่:
- น้ำตกวังกวาง อยู่ห่างจากที่พักด้วยระยะทางประมาณ 1 กม.ลักษณะน้ำตกเป็นผาหินสูง 7 เมตร ตัดขวางลำธาร ธารน้ำไหลลงยังวังน้ำเบื้องล่าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายโพลงถ้ำมุดลงไปและบริเวณป่าใกล้ๆเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงกวาง ซึ่งมักจะลงมากินน้ำที่น้ำตกแห่งนี้อยู่เสมอ จึงได้ชื่อว่า “วังกวาง” บริเวณน้ำตกสามารถลงเล่นน้ำได้[6]
- น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เป็นน้ำตกที่เกิดจากเกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกตกผ่านผาหินรูปโค้ง อยู่ห่างจากน้ำตกวังกวางประมาณ 700 เมตร
- น้ำตกโผนพบ เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำธารวังกวางเช่นกัน อยู่ห่างจากตัวน้ำตกเพ็ญพบใหม่เพียง 600 เมตร น้ำตกมี 8 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สำหรับชื่อ “โผนพบ” ตั้งเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมป์เปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทยในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรก เมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยเพื่อให้ชินกับอากาศหนาวก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ[7]
- น้ำตกเพ็ญพบ อยู่ห่างจากน้ำตกโผนพบประมาณ 600 เมตร เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก ลำห้วยช่วงก่อนไหลลงน้ำตกเป็นลานหินกว้าง ลักษณะคล้ายแก่งที่เต็มไปด้วยหลุมกลม
- น้ำตกถ้ำใหญ่ อยู่ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบประมาณ 900 เมตร เส้นทางไปสู่น้ำตกจะปกคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้มกว่าทุกเส้นทาง น้ำตกถ้ำใหญ่สวยงามแปลกตาด้วยโขดหินขนาดมหึมาวางทับซ้อนไม่เป็นระเบียบ
- ลานหินบริเวณองค์พระพุทธเมตตา อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางประมาณ 600 เมตร และอยู่ห่างจากน้ำตกถ้ำใหญ่ประมาณ 400 เมตร ลานหินบริเวณองค์พระนี้เป็นจุดชมพันธุ์ไม้บนลานหิน เช่น ดุสิตา กระดุมเงิน เอื้องม้าวิ่ง สำหรับพระพุทธเมตตาได้มีนายอำเภอวังสะพุงผู้หนึ่งขึ้นไปสร้างไว้เมื่อปี พ.ศ. 2463[8]
- สระแก้ว อยู่ห่างจากลานหินบริเวณองค์พระพุทธเมตตา 700 เมตร อยู่ในส่วนต้นน้ำของลำธาร“ธารสวรรค์”ลักษณะเป็นวังน้ำลึกขนาดไม่กว้างนัก น้ำใสมากจนมองเห็นพื้นหินขาวสะอาด ต่อจากบริเวณสระแก้วมีทางเดินชมธรรมชาติผ่านลานหิน ซึ่งมีดอกหรีดสีม่วงอมน้ำเงินเกสรสีเหลือง ขึ้นอยู่เป็นทุ่งไปจนถึงผานาน้อย
- สระอโนดาด อยู่ห่างจากลานหินบริเวณองค์พระพุทธเมตตา 1.7 กม. เป็นสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัด ใกล้กันยังมีลานกินรีซึ่งเป็นสวนหินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยพรรณไม้กินแมลงอย่างดุสิตา หยาดน้ำค้าง และเฟิน เช่น กระปรอกสิงห์
- น้ำตกถ้ำสอเหนือ อยู่ห่างจากสระอโนดาด 1.5 กม. เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูง 10 เมตร น้ำไหลมาจากผาเป็นม่านน้ำตก บริเวณเหนือน้ำตกมีดงกุหลาบแดงซึ่งจะออกดอกในช่วงฤดูร้อน
- น้ำตกถ้ำสอใต้ อยู่ถัดจากน้ำตกถ้ำสอเหนือลงไปตามลำน้ำประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่เกิดจากหน้าผาหินถล่มลงไป
เส้นทางเลียบผา edit
thumb|ทะเลหมอกยามเช้าที่ผานกแอ่น เนื่องจากภูกระดึงเป็นภูเขายอดตัด ชายขอบยกสูงจึงเกิดเป็นหน้าผาตลอดแนวเกิดเป็นจุดชมวิวต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนยอดเขาไปตามเส้นทางเลียบผา โดยจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังนี้
- ลานพระแก้ว อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 1.6 กม.เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2463 เป็นลานหินที่กว้างมีพรรณไม้ดอกพวกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง ขึ้นอยู่ทั่วไป
- ผานกแอ่น อยู่ทางทิศตะวันออก อยู่ห่างจากลานพระแก้วประมาณ 500 เมตร เป็นลานหินเล็กๆมีสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผาต้นหนึ่ง มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา และเห็นผานกเค้าได้ชัดเจน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูกระดึงเพียงจุดเดียว ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ จะบานในเดือนมีนาคม-เมษายน[9]
- ผาหมากดูก อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2 กม. เป็นผาที่มีลานหินกว้างขวาง เป็นจุดสำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้ที่พักมากที่สุด สามารถมองเห็นภูผาจิตในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีดอกกระเจียวขึ้นเต็มทุ่งตามเส้นทางสู่ผาหมากดูก
- ผาจำศีล ที่ได้ชื่อนี้เพราะเคยมีพระมาจำศีลทางด้านล่าง อยู่ถัดจากผาหมากดูกเป็นระยะทางประมาณ 600 เมตร
- ผานาน้อย อยู่ถัดจากผาจำศีลมาทางทิศตะวันตกระยะทาง 600 เมตร ผาแห่งนี้จะอยูใกล้เคียงกับหมู่บ้านนาน้อย
- ผาเหยียบเมฆ ลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่พอควร หน้าผาสูงชัน อยู่ถัดจากผานาน้อยเป็นระยะทางประมาณ 2 กม.
- ผาแดง อยู่ถัดจากผาเหยียบเมฆเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กม.
- ผาหล่มสัก อยู่ถัดจากผาแดงเป็นระยะทางประมาณ 2.5 กม. อยู่สุดริมภูกระดึงทางทิศตะวันตก เป็นลานหินกว้างและมีสนต้นหนึ่งขึ้นชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศทางทิศใต้ บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถมองเห็นภูผาจิตของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวในภูเขาฝั่งตรงข้าม และเป็นจุดหนึ่งที่จะชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจน
เขตป่าปิด edit
เขตป่าปิดจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเพียงแค่เดือนเมษายน-พฤษภาคมเท่านั้นและจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง[8] ผู้ที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมและค่าเจ้าหน้าที่นำทาง แต่อาจมีกรณียกเลิกการท่องเที่ยวในป่าปิด ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เช่น เกิดฝนตกหนักก่อนหรือในเช้าวันเดินทางหรือคาดว่าอาจเกิดฝนตกหนักหรือมีรายงานว่ามีช้างป่ารวมฝูง เส้นทางในป่าปิดก็สามารถแบ่งได้เป็น
- เส้นทางน้ำตกขุนพอง จะพบแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ ลานสน น้ำตกหงษ์ทอง และน้ำตกขุนพอง
- เส้นทางผาส่องโลก จะพบแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ น้ำตกผาฟ้าผ่า โหล่มฟ้าโลมดิน ผาส่องโลก โหล่นเจดีย์ โหล่นถ้ำพระ และ แง่งทิดหา
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก edit
การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนยอดภู สถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นนั้นสามารถชมได้ที่"ผานกแอ่น"เพียงแห่งเดียวเท่านั้น การเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นนั้นในบางครั้งต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปเพราะมีช้างป่ามาป้วนเปี้ยนในบริเวณนั้น ส่วนการชมพระอาทิตย์ตกนักท่องเที่ยวสามารถชมได้ที่"ผาหมากดูก"ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้บริเวณที่พักมากที่สุด และที่"ผาหล่มสัก"ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแต่ระยะทางไกลจากที่พักมาก
กิจกรรมพิเศษ edit
- โครงการอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึง: [10] เนื่องจากปัญหาขยะจำนวนมากที่เกิดจากนักท่องเที่ยว อุทยานจึงโครงการนี้ขึ้น โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องเก็บขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ตามธรรมชาติบนยอดเขานำลงมาทิ้งที่เชิงเขาไม่ต่ำกว่าคนละ 1 กิโลกรัม และทางอุทยานจะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้เพื่อแสดงว่าท่านเป็นผู้เสียสละและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติและสังคม
- งานแต่งงานบนภูกระดึง: อุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังมีอีกตำนานหนึ่งเล่าขานถึงคนหนุ่มสาวที่ได้พบรักและพิสูจน์รักแท้ ณ ที่ภูเขากระดึงซึ่งยอดตัดเป็นรูปหัวใจแห่งนี้ ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงจึงได้กำหนดจัดงานจดทะเบียนสมหมู่บนยอดภูกระดึงขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 และจัดงานนี้เป็นประจำต่อมาทุกปี[11] ถึงปี พ.ศ. 2553 มีจำนวนผู้ร่วมงานแล้วจำนวน 109 คู่[12]
สิ่งอำนวยความสะดวก edit
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการแก่นักท่องเที่ยวได้แก่[13]
- มีเต็นท์และเครื่องนอนเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว และทางอุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ไว้บนยอดภูกระดีง สามารถรองรับได้ประมาณ 5,000 คน
- มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยวประมาณ 15 หลัง[8]
- มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ
- มีลานจอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถรองรับได้ประมาณ 500 คัน
- มีบริการอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการตามจุดต่างๆคือ บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน ซำแฮก ซำกอซาง ซำกกโดน ซำแคร่ บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ผาหมากดูก ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง และผาหล่มสัก
- มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐานและบนยอดภูกระดึง
การเดินทาง edit
230px|thumb|right|ผานกเค้า สถานที่แวะพักผ่อนที่สำคัญก่อนถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
รถยนต์[1] edit
- เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
รถทัวร์ edit
- รถทัวร์สายกรุงเทพ-เมืองเลยลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังที่ทำการอุทยาน มีบริษัทให้บริการได้แก่บริษัท ขนส่งจำกัด แอร์เมืองเลย ภูกระดึงทัวร์ ขอนแก่นทัวร์ ศิขรินทร์ทัวร์ และชุมแพทัวร์
- รถโดยสารระหว่างจังหวัดที่ผ่านอำเภอภูกระดึงคือ สายขอนแก่น-เมืองเลย และบริษัทนครชัยขนส่ง สาย เลย-พัทยา-ระยอง และ สายนครราชสีมา-เชียงคาน ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังที่ทำการอุทยานเช่นเดียวกัน
อ้างอิง edit
หมวดหมู่:อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- ↑ 1.0 1.1 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สำนักอุทยานแห่งชาติ สืบค้นวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553
- ↑ เส้นทางขึ้นภูกระดึง, ภูกระดึง, มหาวิทยาลัยนเรศวร, สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553
- ↑ แหล่งท่องเที่ยวตำบลวังกวาง ศูนย์การเรียนรู้น้ำหนาว, สืบค้นวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553
- ↑ ผู้ว่าฯ เลยสวนทางโพล เตรียมผลักดันกระเช้าภูกระดึง ผ่าน มท.1 ส.ค.นี้ อีสานคลิก, สืบค้นวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553
- ↑ นักธุรกิจอีสานปลุกชีพกระเช้าขึ้นภูกระดึง อีสานคลิก, สืบค้นวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553
- ↑ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หมูหิน.คอม สืบค้นวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553
- ↑ น้ำตกโผนพบ, สำนักอุทยานแห่งชาติ, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553
- ↑ 8.0 8.1 8.2 แผนแม่บท อุทยานแห่งชาติภูกระดึง พ.ศ. 2549 - 2553, สำนักอุทยานแห่งชาติ, สืบค้นวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553
- ↑ ผานกแอ่น, สำนักอุทยานแห่งชาติ, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553
- ↑ 1ต.ค.เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวพักแรมบนภูกระดึง คม.ชัด.ลึก, 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552
- ↑ จดทะเบียนสมรสบนภูกระดึง 14 ก.พ.นี้ sanook.com, สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553
- ↑ ใต้สมุทร-สุดยอดภู ตามติดชีวิตคู่เริ่มต้น, นิตยสาร WHO, สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553
- ↑ สิ่งอำนวยความสะดวก, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553