25 ตุลาคม พ.ศ. 2550
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ประกาศขึ้นราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 3.- บาททุกภูมิภาค เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรต้องประสบปัญหาขาดทุนติดต่อมากันมานานกว่า 7 เดือน จากปัญหาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้นมาก ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยราคาที่ปรับสูงขึ้นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการเลี้ยงสุกรถึงร้อยละ 7.03 และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสุรชัยกล่าวว่า ราคาสุกรขุนน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ราคาขายย้อนหลัง 10 เดือน เฉลี่ยขายได้เพียง 3,757 บาท ขณะที่มีต้นทุนอยู่ที่ 4,491 บาท ทำให้ผู้เลี้ยงขาดทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งการปรับราคาครั้งนี้ เกษตรกรก็ยังขาดทุนอยู่
ขณะเดียวกัน ทางสมาคมฯได้เข้ายื่นหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรใน 4 ประเด็น ได้แก่
- ขอให้รัฐบาลพิจารณาลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบกากถั่วเหลืองเป็นกรณีพิเศษ จาก 4 % ให้เหลือ 0 % เป็นระยะเวลา 2 ปี
- ขอให้รัฐออกมาตรการระงับการส่งออกข้าวโพดอาหารสัตว์โดยเด็ดขาด เพื่อรักษาปริมาณข้าวโพดให้เพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ
- ขอให้รัฐระงับการนำเข้าเครื่องในสุกรจากต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคชาวไทย และ
- ขอให้รัฐสนับสนุนการส่งออกเนื้อสุกรไปยังกลุ่มประเทศ AMEC (ประเทศเพื่อนบ้าน) เพื่อลดปริมาณเนื้อสุกรภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ราคาภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นและช่วยลดภาระขาดทุนของเกษตรกรได้
ขณะเดียวกัน ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เรื่องนี้เห็นว่ายังเป็นเรื่องที่ไม่สมควรดำเนินการ และยังไม่ได้มีการหารือกับกรมการค้าภายใน ขณะที่กรมก็ยังไม่อนุมัติให้ปรับราคา ซึ่งทางกรมฯ จะหารือกับทางสมาคมฯ ในวันพรุ่งนี้ (26 ตุลาคม) เวลา 13.00 น.เพื่อรับฟังเหตุผลในการปรับราคาครั้งนี้ แต่ทางกรมจะขอปรึกษาหารือและหากเป็นไปได้จะยังไม่ให้ขึ้นราคา เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
แหล่งที่มา
edit- กรุงเทพธุรกิจ "ผู้เลี้ยงหมูขึ้นราคาหน้าฟาร์ม3บาทต่อก.ก.". หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, 25 ตุลาคม 2550
- ผู้จัดการ "“พาณิชย์” เบรกขึ้นราคาหมูหน้าฟาร์ม สวนทางราคาอาหารสัตว์พุ่ง". หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ, 25 ตุลาคม 2550